การตรวจสอบบ้านก่อนที่จะซื้อบ้านสักหลัง

มีหลายคนต่อหลายคนเลยนะคะ ที่เก็บเงินมาตลอดชีวิต เพื่อนำเงินนั้นมาซื้อบ้านสักหลัง การซื้อบ้านเป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้นก่อนที่ คุณจะตัดสินใจซื้อบ้าน หรือกระทำการที่มีสัญญาผูกมัดใดๆ คุณจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูล รวมทั้งดูข้อตกลงในสัญญาให้ดีเสียก่อน เนื่องจากข้อตกลงในแต่ละโครงการย่อมไม่เหมือนกัน มิหนำซ้ำ บางโครงการทำการระบุวันโอนในใบสัญญาจองบ้านเลยก็มี โดยที่คุณยังไม่ทันได้ตรวจบ้านเลยด้วยซ้ำ แต่บางโครงการก็ระบุเอาไว้ว่า ถ้าจ่ายเงินจองแล้ว เกิดกู้ไม่ผ่านโครงการจะไม่คืนเงินจองให้ เพราะฉะนั้นนี่คือความสำคัญ คุณควรอ่านข้อตกลงทุกข้ออย่างละเอียดพร้อมตัดสินใจด้วยความรอบคอบ ก่อนทำการจองบ้าน ไม่อย่างนั้นคุณอาจตกหลุมพรางของโครงการที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นได้ แถมบ้านในฝันก็กลายเป็นบ้านแย่ๆไปซะได้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าการตรวจสอบบ้านก่อนที่จะซื้อบ้านสักหลังนั้นมีอะไรบ้าง

น้ำ

  • เปิดก๊อกน้ำเพื่อดูว่าน้ำรั่วหรือไม่
  • ดูการทำงานของท่อระบายน้ำ
  • เปิดน้ำเพื่อดูการทำงานของปั๊มน้ำว่าทำงานดีรึเปล่า
  • ในห้องน้ำต้องมีสุขภัณฑ์ให้ครบ

ไฟฟ้า

  • เปิดไฟทุกดวงเพื่อดูว่าดวงไหนติด ดวงไหนไม่ติด
  • ในห้องน้ำต้องมีการเดินสายดินด้วย และต้องมีเบรกเกอร์ติดแยกไว้อีกที่
  • ปิดไฟทุกดวง แล้วเช็คว่ามิเตอร์ไฟวิ่งไหม ถ้ามิเตอร์วิ่งแปลว่าไฟรั่ว
  • ปลั๊กไฟนอกบ้านต้องมีตัวกั้นน้ำ

งานกำแพง

  • ดูว่ากำแพงสะอาดหรือเปล่า Wallpaper เรียบเสมอกันหรือไม่
  • เช็คสีนอกบ้าน สังเกตรอยรั่ว รอยร้าวให้ดี
  • สังเกตประตู หน้าต่าง พร้อมสังเกตว่ามีการทรุดตัวไหม เมื่อปิดประตูแล้วเอาไฟส่อง พบว่ามีแสงลอดออกมารึเปล่า นอกจากนี้เมื่อล็อคประตูแล้ว ให้เอากุญแจลองไขดูทุกดอกว่าใช้ได้จริงไหม

งานใต้หลังคา

  • ถ้าพบว่าฉนวนกันความร้อน ฉีกขาดต้องให้ทางโครงการมาซ่อมให้ด่วน
  • สายไฟต้องอยู่ใต้โครงเหล็ก ไม่ใช่อยู่เหนือโครงเหล็ก
  • การรั่วซึมของหลังคา ตรวจได้โดยการให้คุณ ขึ้นไปให้เหยียบบริเวณโครงเหล็กของหลังคา อย่าเหยียบบนฝ้า เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ ต่อจากนั้นให้ใช้ไฟฉายส่อง หากมีแสงลอดออกมา แปลว่าหลังคารั่ว ต้องแจ้งให้ทางโครงการมาซ่อมให้โดยด่วน

งานพื้น

  • เดินลากเท้าไปกับพื้นเพื่อเช็คว่าปูพื้นเรียบร้อย นอกจากนี้อย่าลืมดูตามร่องที่ปูว่าสะอาดแค่ไหน
  • ใช้เหรียญเคาะที่พื้นเพื่อตรวจว่ามีเสียงพื้นโป่งหรือไม่
  • ให้นำลูกแก้ววางบนพื้น วางให้ห่างกัน 10 ซม. ถ้าไหลรวมกันแสดงว่าพื้นเป็นหลุม แต่ถ้าจุดไหนไม่มีลูกแก้วแสดงว่าพื้นปูด